ภารกิจสำรวจเส้นทางสู่หมู่บ้านกลางน้ำ ปิล๊อกคี่ จ. กาญจนบุรี
- Precha is happy

- 21 ส.ค.
- ยาว 1 นาที

มีใครเคยได้ยินชื่อหมู่บ้านปิล๊อกคี่ บ้างไหมคะ ?
ชื่อแปลกๆ แบบนี้แค่ได้ยินชื่อก็เกิดความสงสัยขึ้นมาทันทีว่าอยู่ที่ไหน ?
ในทริปนี้เราจะพาทุกคนออกเดินทางไปที่นั่นกันค่ะ
เริ่มเลย !!

หมู่บ้านปิล๊อกคี่ คือหมู่บ้านที่ตั้งอยู่กลางน้ำในเขื่อนเขาแหลมหรือเขื่อนวชิราลงกรณ ตั้งอยู่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ที่นี่ยังคงเป็นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์มีธรรมชาติที่สวยงามและมีวิถีชีวิตของผู้คนที่ผสมผสานหลากหลายเชื้อชาติทั้งชาวกระเหรี่ยง ชาวไทย และชาวเมียนมาที่น่าหลงใหล การจะเดินทางไปที่หมู่บ้านมีหลายวิธีแต่โดยส่วนใหญ่แล้วการสัญจรทางน้ำถือเป็นเส้นทางหลักของคนที่นี่เลยก็ว่าได้
เอาหล่ะ…
เราไปเริ่มออกเดินทางกันเลย
แค่คิดว่าจะต้องเล่าว่าเราเดินทางไปที่นั่นยังไงแค่นึกก็รู้สึกเหนื่อยแล้วแฮ่ะ เพราะตอนไปทั้งหลง ทั้งงง ทั้งลำบาก และทั้งเหนื่อย เอาเป็นว่าลองอ่านดูก็พอจะจินตนาการออกว่ามันเหนื่อยจริงๆ ไหมนะ ?
โดยแผนการเดินทางของเราคือการขับรถผ่านเส้นทางป่ากว่าหลายกิโลเมตรเพื่อไปถึงจุดขึ้นแพที่เรานัดกับคนแพไว้ตอน 12.30 น. และนำรถขึ้นแพนั่งแพไปต่อกว่า 1 ชั่วโมง และพอถึงฝั่งก็ต่อด้วยการขับรถเข้าไปในหมู่บ้านอีกกว่า 1 ชั่วโมง พออ่านแบบนี้ก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรซับซ้อน

เราขับรถตามแผนที่ Google map ที่ปักไว้คาดว่าน่าจะเป็นจุดขึ้นแพ ใช้เวลาไม่นานก็ไปถึงที่นั่นแค่มาถึงจุดขึ้นแพบรรยากาศก็สวยเกินจะบรรยายแล้วแต่ว่า…
ยิ่งขับไปไกลเท่าไหร่…
ก็ยังไม่เห็นแพสักลำ…
มองไปทางไหนก็ไม่เจอ…
สงสัยเราจะมาก่อนเวลารึเปล่าคนแพที่เรานัดไว้เลยยังไม่มาแต่พอขับรถวนหาและนั่งรอไปสักพักดูเหมือนจะไม่ใช่อย่างที่เราคิดเลยไปถามชาวบ้านที่มาตกปลาแถวนั้นได้ความว่าแผนที่นำเรามาผิดทาง งานนี้เล่นเอาหลงเข้าไปไกลกว่าเดิมหลายกิโลเลยและแถมยังสัญญาณโทรศัพท์ก็ไม่มีแต่การหลงเข้ามาที่นี่ก็คุ้มค่ามากเลยเพราะบรรยากาศสวยมากจริงๆ นะ

สุดท้ายก็ต้องขับรถกลับไปยังเส้นทางเดิมเพื่อจะไปเริ่มต้นกันที่ทางเข้าอีกครั้งแล้วมุ่งหน้าไปตามเส้นทางใหม่โดยมีชาวบ้านอาสานำทางให้ในรอบนี้แต่ด้วยเส้นทางที่ยากและลำบากเหมือนไม่มีรถยนต์เคยผ่านมาก่อน เส้นทางแคบเป็นป่ามืดทึบ มีกิ่งไม้ไผ่ล้มขวางถนนเต็มไปหมดทำให้ระหว่างเดินทางนั้นเราก็เริ่มแอบมีถอดใจเบาๆ แถมใช้เวลานานมากกว่าจะผ่านอุปสรรคแต่ละจุดไปได้

แต่พอได้ขึ้นแพนั้นเท่ากับว่าตอนนี้เราเดินทางมาถึงครึ่งทางแล้วเหลืออีกไม่ไกลก็จะถึงจุดหมายที่ตั้งใจไว้ พอได้มานั่งรับลม สัมผัสน้ำเย็นๆ ให้มันไหลผ่านตัวเราไปก็ดูเหมือนว่าก็พอจะทำให้ความเครียดจากการเดินทางของทุกคนลดลงได้บ้าง...
ใช้เวลานั่งแพไปสักพักพอได้หายเหนื่อยสัก 1 ชั่วโมงก็ถึงฝั่งหมู่บ้านนี่คือก้าวแรกและครั้งแรกที่เรามาถึงหมู่บ้านกลางน้ำแห่งนี้เราได้รับการต้อนรับอย่างดีจากรักษาการผู้ใหญ่บ้านอย่างครูบิ๊กที่อาสาพาเราเที่ยวชมและมุ่งหน้าไปในหมู่บ้านเพื่อสำรวจความต้องการของโรงเรียนก่อนเลย
อ๋อจริงๆ แล้ว...
ในทริปนี้เราตั้งใจจะเดินทางมาเพื่อสำรวจเส้นทางและสำรวจความต้องการของโรงเรียนเพื่อวางแผนการนำของมาบริจาคในครั้งต่อไป

เราเดินทางมาถึงโรงเรียน ตชด. บ้านปิล๊อกคี่ เป็นโรงเรียนแห่งเดียวในหมู่บ้านนี้และถือว่าเป็นศูนย์กลางในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของชาวบ้าน ถ้าแค่ดูจากภายนอกอาจจะดูเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ ครบครัน แต่พอสำรวจจริงๆ พบว่าโรงอาหารมีที่นั่งไม่เพียงพอต่อจำนวนนักเรียนที่มีมากกว่า 260 คน แถมทั้งโต๊ะทั้งเก้าอี้ก็พังชำรุดเป็นอันตรายต่อเด็ก ส่วนห้องเรียนเด็กเล็กไม่มีพัดลม หน้าต่างก็ชำรุด ตอนนี้เด็กๆ ยังขาดกระเป๋า ที่นอน ชั้นวางรองเท้า และอื่นๆ ที่จำเป็น รวมทั้งข้าวสารอาหารแห้งสำหรับเป็นอาหาร 3 มื้อให้กับเด็กๆ เพราะเด็กที่นี่ได้เรียนฟรีทุกคน และบางคนที่พ่อแม่ไม่มีเวลาดูแล เด็กๆ เหล่านี้ก็ต้องนอนที่โรงเรียนด้วย

หลังจากที่ทำภารกิจเสร็จสิ้นก็ได้เวลาหาจุดแคมป์ปิ้งกัน ครูบิ๊กอาสาพาเราไปที่จุดแคมป์ในคืนนี้เป็นลานสนามหญ้าติดริมลำน้ำ ซึ่งเป็นสายน้ำที่ไหลผ่านกลางหมู่บ้าน และหล่อเลี้ยงให้กับคนที่นี่เราไม่รีรอรีบตั้งแคมป์ก่อนพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า ทำอาหาร อาบน้ำ นั่งเล่น พูดคุยกันจนดึกเป็นอีกหนึ่งค่ำคืนที่มีความสุขมากๆ

จริงๆ ทริปนี้ก็แอบตั้งใจจะเข้าไปพักผ่อนสบายๆ แต่ปรากฏว่าสถานการณ์ และเส้นทางต่างค่อนข้างเซอร์ไพร์พวกเราเหมือนกันแต่มันก็คุ้มค่าเหลือเกินที่ครั้งนึงได้มาสัมผัสบรรยากาศของที่นี่ แล้วพวกเราจะกลับมาใหม่พร้อมกับของบริจาคที่พอจะช่วยเหลือได้กลับมามอบให้อีกครั้ง
แล้วเราจะกลับมาใหม่ครั้งหน้านะ “ปิล๊อกคี่”
เพื่อนๆ สามารถติดตามคลิปการเดินทางในทริปนี้ของเราได้ทางช่องทาง YouTube ข้างล่างนี้ได้เลย
และสามารถติดตามเรื่องราวการผจญภัยของพวกเราตอนอื่นๆ ได้ทางช่องทาง
และในบทความหน้ามาติดตามกันว่าพวกเราจะพาทุกคนไปผจญภัยที่ไหนจะมาเล่าเรื่องอะไรให้ทุกคนได้อ่านกัน แล้วพบกันค่ะ





















ความคิดเห็น